เนื้อหาการเรียนการสอน(Knowledge)
-วันนี้เป็นการเรียนการสอนครั้งแรกเริ่มต้นด้วยการพูดคุยกันระหว่างครูและนักศึกษาหลังจากนั้นอาจารย์ก็แจกใบปั๊มเช็คชื่อแล้วจึงเริ่มการเรียนการสอน
- อาจารย์สอนร้องเพลงทั้งหมด 5 เพลง เป็นเพลงภาษาอังกฤษอย่างง่าย
การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนา
ความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย
ความหมายของความคิดสร้างสรรค์
- jellen and
Urban ความคิดสร้างสรรค์เป็นการคิดอย่างอิสระในเชิงนวัตกรรม
จินตนาการ
- De Bono
ความสามารถในการคิดนอกกรอบเพื่อนำมาใช้แก้ไขปัญหา
คุณค่าของความคิดสร้างสรรค์
- - คุณค่าต่อสังคม
- - คุณค่าต่อตัวเอง
- - ทำให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน
- - ช่วยลดความเครียดทางอารมณ์
- -มีความภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง
- - นำมาซึ่งความเป็นผู้นำ
- - ตะหนักถึงคุณค่าของตนเอง
- - ช่วยส่งเสริมสุนทรียภาพ
องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์Guilford
ได้แบ่งองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์เป็น 4 ด้าน
1. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency)
• ด้านถ้อยคำ (Word
Fluency)
• ด้านการเชื่อมโยงความสัมพันธ์
(Association Fluency)
• ด้านการแสดงออก (Expressional Fluency)
• ด้านการคิด (Ideation Fluency)
2. ความคิดริเริ่ม (Originality)
• ความคิดแปลกใหม่และแตกต่างไปจากความคิดธรรมดา
หรือแตกต่างจากบุคคลอื่น
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)
• ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที
(Spontaneous Flexibility)
• ความคิดยืดหยุ่นทางการดัดแปลง
(Adapture Flexibility)
4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration)
• ความคิดที่เกี่ยวกับรายละเอียดที่ใช้ในการตกแต่ง
• เพื่อทำให้ความคิดริเริ่มนั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
• ระยะแรกเกิด – 2 ขวบ
• ระยะ 2 -4 ขวบ
• ระยะ 4-6 ขวบ
• แรกเกิด-2ปี มีจินตนาการ
สำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัว
• 2-4 ปี ตื่นตัวกับสิ่งใหม่ ใช้จินตนาการกับการเล่น ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
ช่วงความสนใจสั้น
• 4-6 ปี สนุกกับการวางแผน การเล่น การทำงาน
ชอบเล่นสมมติเชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้ แต่จะเข้าใจเหตุและผลได้ไม่ดีนัก
ลำดับขั้นของพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งเป็น 5 ขั้น
• ขั้นที่ 1 แสดงออกอย่างอิสระทางความคิด
ไม่คำนึงถึงคุณภาพ
• ขั้นที่ 2 งานที่ผลิตต้องอาศัยทักษะบางอย่าง
• ขั้นที่ 3 ประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆโดยไม่ซ้ำใคร
• ขั้นที่ 4 ปรับปรุงขั้นที่ 3
• ขั้นที่ 5 คิดสิ่งที่เป็นนามธรรมขั้นสูงสุด
คิดหลักการใหม่ๆ
ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
• ก่อให้เกิดสิ่งแปลกใหม่
• อำนวยประโยชน์สุขให้แก่บุคคล
• ช่วยให้เข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาได้ดี
• ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จ
• ช่วยให้ปรับตัวได้ดี
แนวคิดและทฤษฎีโครงสร้างทางปัญญาของ Guilford
•อธิบายความสามารถของสมองมนุษย์เป็นแบบจำลอง 3 มิติ
มิติที่ 1 เนื้อหา
(ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิด)
•ภาพ
•สัญลักษณ์
•ภาษา
•พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีคิด
(กระบวนการทำงานของสมอง)
•
การรู้และเข้าใจ
•
การจำ
•
การคิดแบบอเนกนัย
•
การคิดแบบเอกนัย
•
การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด
(การตอบสนองต่อข้อมูลหรือสิ่งเร้า)
•
หน่วย
•
จำพวก
•
ความสัมพันธ์
•
ระบบ
•
การแปลงรูป
•
การประยุกต์
ทฤษฎี Constructivism
•
เด็กเรียนรู้เอง
•
เด็กคิดเอง
•
ครูกับเด็กเรียนรู้ไปด้วยกัน
•
สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง
ทฤษฎีของ Torrance
ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการของความรู้สึกต่อปัญหา
แล้วรวบรวมความคิดตั้งเป็นสมมติฐาน และเผยแพร่ผลที่ได้จากการทดสอบ
•
ขั้นที่ 1 การพบความจริง
•
ขั้นที่ 2 การค้นพบปัญหา
•
ขั้นที่ 3 การตั้งสมมติฐาน
•
ขั้นที่ 4 การค้นพบคำตอบ
•
ขั้นที่ 5 ยอมรับผล
บรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
•
เด็กรู้สึกปลอดภัย
•
ให้เด็กได้ลองเล่นคนเดียว
•
ได้สำรวจ
ค้นคว้า และสร้างสรรค์ด้วยตนเอง
•
ขจัดอุปสรรค
•
ไม่มีการแข่งขัน
•
ให้ความสนใจเด็ก
ลักษณะของเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์
•
มีไหวพริบ
•
กล้าแสดงออก
•
อยากรู้อยากเห็น
•
ช่างสังเกต
•
มีอารมณ์ขัน
•
มีสมาธิ
•
รักอิสระ
•
มั่นใจในตนเอง
•
อารมณ์อ่อนไหวง่าย
•
ไม่ชอบการบังคับ
•
ชอบเหม่อลอย
•
ซาบซึ้งกับสุนทรียภาพ
•
มีความวิจิตรพิสดาร
•
ชอบสร้างแล้วรื้อ
รื้อแล้วสร้างใหม่
ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
•
Torrance ได้กล่าวถึงลักษณะของกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้
3 ลักษณะ
•
ลักษณะที่ 1 ความไม่สมบูรณ์ การเปิดกว้าง (Incompleteness, Openness)
•
ลักษณะที่ 2 การสร้างบางอย่างขึ้นมา และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
(Producing Something and Using It)
• ลักษณะที่ 3 การใช้คำถามของเด็ก
(Using Pupil Question)
1.
คำถามที่ส่งเสริมความคิดคล่องแคล่ว
-คิดให้ได้มากที่สุด
2.
คำถามที่ส่งเสริมความคิดริเริ่ม
-คิดหรือทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดหรือทำมาก่อน
คำถามที่ส่งเสริมความคิดยืดหยุ่น
-ได้คำตอบที่หลากหลาย
คำถามที่ส่งเสริมความคิดละเอียดลออ
-คิดให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ
แนวทางการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของ
Torrance
- ส่งเสริมให้เด็กถาม
- เอาใจใส่ความคิดของเด็ก
- ยอมรับคำถามของเด็ก
- ชี้แนะให้เด็กหาคำตอบด้วยตนเอง
- แสดงให้เด็กเห็นว่าความคิดของเด็กมีคุณค่า
- เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้อยู่เสมอ
- ค่อยเป็นค่อยไป
- ยกย่องชมเชย
- ไม่มีการวัดผล
การตั้งคำถาม 5W1H
•
Who ใคร
•
What อะไร
•
Where ที่ไหน
•
When เมื่อไหร่
•
Why ทำไม
•
How อย่างไร
ระหว่างการเรียนการสอนอาจารย์ได้ยกตัวอย่าง
ความคิดสร้างสรรค์ให้เห็นอยู่ตลอด
-เมื่อจบกิจกรรมการเรียนการสอนอาจารย์ได้เสริมกิจกรรมการสอนโดยให้นักศึกษาพับจรวดและให็ปาจรวจให้เข้ากล้อง
มีโอกาสคนละ 2 ครั้ง
-กิจกรรมสุดท้ายเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานโดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์โดยการฟังเพลงและลากเส้นตามจินตนากานโดยที่ไม่ยกมือขึ้นจากกระดาษ
-ความรู้ที่ได้และการนำไปประยุกต์
ได้รู้ความหมายของความคิดสร้างสรรค์และได้รู้จักทฤษฏีต่างๆและสามารถเอาการเรียนการสอนที่อาจารย์นำมาสอนนี้ไปประยุกต์ใช้กับเด็กได้
-การประเมิน
ประเมินเพื่อน - เพื่อนตั้งใจเรียนแต่งกายเรียบร้อย
ประเมินตัวเอง - ตั้งใจเรียนแต่งกายเรียบร้อย
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์เข้าสอนตรงเวลาและสอนอย่างเต็มที่
ความหมายของความคิดสร้างสรรค์
- jellen and
Urban ความคิดสร้างสรรค์เป็นการคิดอย่างอิสระในเชิงนวัตกรรม
จินตนาการ
- De Bono
ความสามารถในการคิดนอกกรอบเพื่อนำมาใช้แก้ไขปัญหา
คุณค่าของความคิดสร้างสรรค์
- - คุณค่าต่อสังคม
- - คุณค่าต่อตัวเอง
- - ทำให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน
- - ช่วยลดความเครียดทางอารมณ์
- -มีความภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง
- - นำมาซึ่งความเป็นผู้นำ
- - ตะหนักถึงคุณค่าของตนเอง
- - ช่วยส่งเสริมสุนทรียภาพ
องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์Guilford
1. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency)
• ด้านถ้อยคำ (Word
Fluency)
• ด้านการเชื่อมโยงความสัมพันธ์
(Association Fluency)
• ด้านการแสดงออก (Expressional Fluency)
• ด้านการคิด (Ideation Fluency)
2. ความคิดริเริ่ม (Originality)
• ความคิดแปลกใหม่และแตกต่างไปจากความคิดธรรมดา
หรือแตกต่างจากบุคคลอื่น
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)
• ความคิดยืดหยุ่นที่เกิดขึ้นทันที
(Spontaneous Flexibility)
• ความคิดยืดหยุ่นทางการดัดแปลง
(Adapture Flexibility)
4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration)
• ความคิดที่เกี่ยวกับรายละเอียดที่ใช้ในการตกแต่ง
• เพื่อทำให้ความคิดริเริ่มนั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ
• ระยะแรกเกิด – 2 ขวบ
• ระยะ 2 -4 ขวบ
• ระยะ 4-6 ขวบ
• แรกเกิด-2ปี มีจินตนาการ
สำรวจสิ่งแวดล้อมรอบตัว
• 2-4 ปี ตื่นตัวกับสิ่งใหม่ ใช้จินตนาการกับการเล่น ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
ช่วงความสนใจสั้น
• 4-6 ปี สนุกกับการวางแผน การเล่น การทำงาน
ชอบเล่นสมมติเชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้ แต่จะเข้าใจเหตุและผลได้ไม่ดีนัก
ลำดับขั้นของพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งเป็น 5 ขั้น
• ขั้นที่ 1 แสดงออกอย่างอิสระทางความคิด
ไม่คำนึงถึงคุณภาพ
• ขั้นที่ 2 งานที่ผลิตต้องอาศัยทักษะบางอย่าง
• ขั้นที่ 3 ประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆโดยไม่ซ้ำใคร
• ขั้นที่ 4 ปรับปรุงขั้นที่ 3
• ขั้นที่ 5 คิดสิ่งที่เป็นนามธรรมขั้นสูงสุด
คิดหลักการใหม่ๆ
ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
• ก่อให้เกิดสิ่งแปลกใหม่
• อำนวยประโยชน์สุขให้แก่บุคคล
• ช่วยให้เข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาได้ดี
• ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จ
• ช่วยให้ปรับตัวได้ดี
•อธิบายความสามารถของสมองมนุษย์เป็นแบบจำลอง 3 มิติ
มิติที่ 1 เนื้อหา
(ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิด)
•ภาพ
•สัญลักษณ์
•ภาษา
•พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีคิด
(กระบวนการทำงานของสมอง)
•
การรู้และเข้าใจ
•
การจำ
•
การคิดแบบอเนกนัย
•
การคิดแบบเอกนัย
•
การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด
(การตอบสนองต่อข้อมูลหรือสิ่งเร้า)
•
หน่วย
•
จำพวก
•
ความสัมพันธ์
•
ระบบ
•
การแปลงรูป
•
การประยุกต์
ทฤษฎี Constructivism
•
เด็กเรียนรู้เอง
•
เด็กคิดเอง
•
ครูกับเด็กเรียนรู้ไปด้วยกัน
•
สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง
ทฤษฎีของ Torrance
ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการของความรู้สึกต่อปัญหา
แล้วรวบรวมความคิดตั้งเป็นสมมติฐาน และเผยแพร่ผลที่ได้จากการทดสอบ
•
ขั้นที่ 1 การพบความจริง
•
ขั้นที่ 2 การค้นพบปัญหา
•
ขั้นที่ 3 การตั้งสมมติฐาน
•
ขั้นที่ 4 การค้นพบคำตอบ
•
ขั้นที่ 5 ยอมรับผล
บรรยากาศที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
•
เด็กรู้สึกปลอดภัย
•
ให้เด็กได้ลองเล่นคนเดียว
•
ได้สำรวจ
ค้นคว้า และสร้างสรรค์ด้วยตนเอง
•
ขจัดอุปสรรค
•
ไม่มีการแข่งขัน
•
ให้ความสนใจเด็ก
ลักษณะของเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์
•
มีไหวพริบ
•
กล้าแสดงออก
•
อยากรู้อยากเห็น
•
ช่างสังเกต
•
มีอารมณ์ขัน
•
มีสมาธิ
•
รักอิสระ
•
มั่นใจในตนเอง
•
อารมณ์อ่อนไหวง่าย
•
ไม่ชอบการบังคับ
•
ชอบเหม่อลอย
•
ซาบซึ้งกับสุนทรียภาพ
•
มีความวิจิตรพิสดาร
•
ชอบสร้างแล้วรื้อ
รื้อแล้วสร้างใหม่
ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
•
Torrance ได้กล่าวถึงลักษณะของกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้
3 ลักษณะ
• ลักษณะที่ 1 ความไม่สมบูรณ์ การเปิดกว้าง (Incompleteness, Openness)
• ลักษณะที่ 2 การสร้างบางอย่างขึ้นมา และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
(Producing Something and Using It)
• ลักษณะที่ 1 ความไม่สมบูรณ์ การเปิดกว้าง (Incompleteness, Openness)
• ลักษณะที่ 2 การสร้างบางอย่างขึ้นมา และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
(Producing Something and Using It)
• ลักษณะที่ 3 การใช้คำถามของเด็ก
(Using Pupil Question)
1.
คำถามที่ส่งเสริมความคิดคล่องแคล่ว
-คิดให้ได้มากที่สุด
2.
คำถามที่ส่งเสริมความคิดริเริ่ม
-คิดหรือทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดหรือทำมาก่อน
คำถามที่ส่งเสริมความคิดยืดหยุ่น
-ได้คำตอบที่หลากหลาย
คำถามที่ส่งเสริมความคิดละเอียดลออ
-คิดให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ
แนวทางการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของ
Torrance
- ส่งเสริมให้เด็กถาม
- เอาใจใส่ความคิดของเด็ก
- ยอมรับคำถามของเด็ก
- ชี้แนะให้เด็กหาคำตอบด้วยตนเอง
- แสดงให้เด็กเห็นว่าความคิดของเด็กมีคุณค่า
- เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้อยู่เสมอ
- ค่อยเป็นค่อยไป
- ยกย่องชมเชย
- ไม่มีการวัดผล
การตั้งคำถาม 5W1H
•
Who ใคร
•
What อะไร
•
Where ที่ไหน
•
When เมื่อไหร่
•
Why ทำไม
•
How อย่างไร
ระหว่างการเรียนการสอนอาจารย์ได้ยกตัวอย่าง
ความคิดสร้างสรรค์ให้เห็นอยู่ตลอด
-เมื่อจบกิจกรรมการเรียนการสอนอาจารย์ได้เสริมกิจกรรมการสอนโดยให้นักศึกษาพับจรวดและให็ปาจรวจให้เข้ากล้อง
มีโอกาสคนละ 2 ครั้ง
-กิจกรรมสุดท้ายเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานโดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์โดยการฟังเพลงและลากเส้นตามจินตนากานโดยที่ไม่ยกมือขึ้นจากกระดาษ
-ความรู้ที่ได้และการนำไปประยุกต์
ได้รู้ความหมายของความคิดสร้างสรรค์และได้รู้จักทฤษฏีต่างๆและสามารถเอาการเรียนการสอนที่อาจารย์นำมาสอนนี้ไปประยุกต์ใช้กับเด็กได้
-การประเมิน
ประเมินเพื่อน - เพื่อนตั้งใจเรียนแต่งกายเรียบร้อย
ประเมินตัวเอง - ตั้งใจเรียนแต่งกายเรียบร้อย
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์เข้าสอนตรงเวลาและสอนอย่างเต็มที่